สวัสดี
เช้าวันนี้ เราจะทำงานที่ร้านหนังครบหนึ่งอาทิตย์พอดี
หกวันที่ผ่านมาเหนื่อยมาก ปวดหลัง ปวดขา
กลับมาบ้านก็ไม่มีเวลาอ่านหนังสือ
บางทีก็คิดว่า นี่เราจะทำให้ตัวเองลำบากทำไม
ถ้าอยู่ที่บ้าน ป่านนี้ก็ได้อ่านหนังสือ อย่างที่ต้องการ
มีเวลาไปเที่ยว มีเวลาไปดูหนัง ไปซ้อมดนตรี
แต่ใครจะรู้ บางทีการอยู่บ้าน
อาจไม่สบายใจเหมือนกับที่อยู่คนเดียวตอนนี้ก็ได้
เพียงแต่ อิสระและความสบายใจอาจต้องแลกมา
ด้วยความลำบากกาย และเราตัดสินใจแล้ว
ว่าเราต้องอดทนให้ได้ จนกว่าเราจะเรียนจบ
เราทำงาน จนไม่มีเวลาไปอ่านบลอก
อยากจะเขียนแต่ก็เหนื่อยเกินกว่าจะคิด
เลยปิดบลอกที่นั่นไปดีกว่า อีกอย่าง
การที่เราเข้าไปที่นั่น แล้วเห็นชื่อของใครบางคน
มันทำให้เราคิดถึงเค้าขึ้นมา ทั้งๆที่ไม่อยากคิด
เราคิดถึงเค้า และ เราก็ร้องไห้
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ทั้งๆที่เราคิดว่า
เราลืมเค้าไปได้มากแล้ว
แต่ที่จริง เค้ายังอยู่ในใจเรา ไม่ได้หายไปไหน
เราได้แต่หวังว่า เค้าจะค่อยๆจางไปจากใจเรา
เราไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้
แต่เค้าเลือกที่จะไม่คุยกับเรา
เราเองก็คงต้องทำใจยอมรับให้ได้
แม้ว่าเราจะเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม
แม้แต่ความเป็นเพื่อน ก็ให้ไม่ได้
เราเสียดาย เสียใจ กับเรื่องดีๆที่ผ่านมา
เราคิดถึงเค้า เราอยากรู้ว่าเค้าเป็นไงบ้าง
สบายดีรึเปล่า แต่เราก็ไม่กล้าพอที่จะทำอะไร
เราได้แต่พยายามทำงานให้หนัก เพื่อจะได้ไม่ต้องคิดถึงเค้า
เรายังรักอยู่ และไม่รู้ว่าจะรักถึงเมื่อไหร่
เราขอโทด ที่เรารัก
ง่วงมาก เราคงต้องไปนอนแล้ว
คงอีกนาน กว่าเราจะมาเขียนใหม่
วันนี้เราแค่อยากบอกว่า เรายังรักและคิดถึงคนๆนึง
และชีวิตเราตอนนี้มันหมดไปกับงานที่ร้านหนัง
สวัสดี
21 กุมภาพันธ์ 2551
14 กุมภาพันธ์ 2551
เราเลิกกันเถอะ
วันพุธ หยุดพ่นควัน*
วันนี้ตื่นสิบโมง อาบน้ำแต่งตัว ไปอ่านหนังสือที่ห้องเจี๊ยบกับมะ
อ่านมั่ง คุยมั่ง เล่นเน็ตมั่ง สรุปคือ ไม่ค่อยได้อ่านเท่าไหร่เลย
แล้วตอนเย็นก็ไปกินข้าวกับมะ กลับมานั่งดูคลิปหนังเรื่องlust caution
หาฉากอีโรติกโดยเฉพาะ แล้วก็เจอฉากsex sceneความยาวห้านาที
ดูกันสองคนกับมะ ดูเพราะว่า จะซื้อดีวีดีมาให้เจี๊ยบดู เห็นบ่นว่าอยากดูอีโรติก
แต่เราอยากดูทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะฉากนั้น อยากดูเนื้อเรื่อง การแสดง
แล้วที่สำคัญอยากดูพี่เหลียงสุดเท่ แต่ฉากเซ็กซ์นี่มันเยอะจริงๆแฮะ ฮ่าๆ
พอสามทุ่ม เจี๊ยบก็มา มีดอกกุหลาบมาให้มะด้วย
อิจฉาคนมีคู่ว่ะ แต่ว่า พอถึงเวลามีกับเค้าขึ้นมา
ก็ใช่ว่าจะมีความสุขเสมอไปน่ะนะ ได้อย่างเสียอย่าง
สรุป ตอนนี้ยังไม่อยากมีใครจริงจังว่ะ
แค่รักคนๆนึงที่เค้ามีแฟนแล้ว ก็ปวดหัว(ใจ)จะตายละ
เออ พอเจี๊ยบมาก็กลับห้อง มาออนเอ็ม
คุยกับเอม เรื่องโน้นนี้ แล้วอยู่ๆก็บอกเอมว่าอยากเลิกบุหรี่
เพราะคิดมาหลายวันแล้ว มะก็บอกให้เลิก
เอมก็บอกว่า ถ้าเลิกได้จะซื้อหนังสือให้
เราเลยสัญญาไปแล้วว่าจะเลิกให้ได้
ตัดสินใจจะเลิกจริงๆแล้วล่ะ สูบไปก็มีแต่จะแย่ลง
ไม่มีอะไรดีสักนิด ไม่รู้จะสูบทำไม
พอคิดว่าจะเลิก ก็เลยไปเขียนบลอกที่เอ็กทีน
ไปประกาศให้ชาวบ้านเค้ารู้ด้วย จะได้ไม่กลับคำ
วันนี้ก็วันสุดท้ายละที่จะสูบ เหลือบุหรี่อีกห้าตัว
ทีแรกว่าจะสูบให้หมดคืนนี้ แต่เปลี่ยนใจ
จะเก็บไว้ทดสอบตัวเองว่าจะทนได้มั้ย
แล้วสิ้นเดือนนี้ไปเที่ยวข้าวสารก็จะเป็นบททดสอบใหญ่
มาดูกันว่าเราจะยอมแพ้หรือจะเอาชนะมันได้
พรุ่งนี้ทำงานที่คุมองวันสุดท้ายแล้ว ใจหายว่ะ
ทำมาตั้งหลายปี แล้ววันศุกร์ก็เริ่มทำงานที่ใหม่
จะเจออะไรแย่ๆรึเปล่าน้อ แอบกลัวนิดๆ
แต่ก็จะพยายามอดทน เพื่อชีวิตที่อยากใช้
ไปนอนแล้ว พรุ่งนี้ตื่นมาซักผ้าแต่เช้า
อ่านหนังสือสอบด้วย ต้องขยันหน่อยเรา
สวัสดี
วันนี้ตื่นสิบโมง อาบน้ำแต่งตัว ไปอ่านหนังสือที่ห้องเจี๊ยบกับมะ
อ่านมั่ง คุยมั่ง เล่นเน็ตมั่ง สรุปคือ ไม่ค่อยได้อ่านเท่าไหร่เลย
แล้วตอนเย็นก็ไปกินข้าวกับมะ กลับมานั่งดูคลิปหนังเรื่องlust caution
หาฉากอีโรติกโดยเฉพาะ แล้วก็เจอฉากsex sceneความยาวห้านาที
ดูกันสองคนกับมะ ดูเพราะว่า จะซื้อดีวีดีมาให้เจี๊ยบดู เห็นบ่นว่าอยากดูอีโรติก
แต่เราอยากดูทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะฉากนั้น อยากดูเนื้อเรื่อง การแสดง
แล้วที่สำคัญอยากดูพี่เหลียงสุดเท่ แต่ฉากเซ็กซ์นี่มันเยอะจริงๆแฮะ ฮ่าๆ
พอสามทุ่ม เจี๊ยบก็มา มีดอกกุหลาบมาให้มะด้วย
อิจฉาคนมีคู่ว่ะ แต่ว่า พอถึงเวลามีกับเค้าขึ้นมา
ก็ใช่ว่าจะมีความสุขเสมอไปน่ะนะ ได้อย่างเสียอย่าง
สรุป ตอนนี้ยังไม่อยากมีใครจริงจังว่ะ
แค่รักคนๆนึงที่เค้ามีแฟนแล้ว ก็ปวดหัว(ใจ)จะตายละ
เออ พอเจี๊ยบมาก็กลับห้อง มาออนเอ็ม
คุยกับเอม เรื่องโน้นนี้ แล้วอยู่ๆก็บอกเอมว่าอยากเลิกบุหรี่
เพราะคิดมาหลายวันแล้ว มะก็บอกให้เลิก
เอมก็บอกว่า ถ้าเลิกได้จะซื้อหนังสือให้
เราเลยสัญญาไปแล้วว่าจะเลิกให้ได้
ตัดสินใจจะเลิกจริงๆแล้วล่ะ สูบไปก็มีแต่จะแย่ลง
ไม่มีอะไรดีสักนิด ไม่รู้จะสูบทำไม
พอคิดว่าจะเลิก ก็เลยไปเขียนบลอกที่เอ็กทีน
ไปประกาศให้ชาวบ้านเค้ารู้ด้วย จะได้ไม่กลับคำ
วันนี้ก็วันสุดท้ายละที่จะสูบ เหลือบุหรี่อีกห้าตัว
ทีแรกว่าจะสูบให้หมดคืนนี้ แต่เปลี่ยนใจ
จะเก็บไว้ทดสอบตัวเองว่าจะทนได้มั้ย
แล้วสิ้นเดือนนี้ไปเที่ยวข้าวสารก็จะเป็นบททดสอบใหญ่
มาดูกันว่าเราจะยอมแพ้หรือจะเอาชนะมันได้
พรุ่งนี้ทำงานที่คุมองวันสุดท้ายแล้ว ใจหายว่ะ
ทำมาตั้งหลายปี แล้ววันศุกร์ก็เริ่มทำงานที่ใหม่
จะเจออะไรแย่ๆรึเปล่าน้อ แอบกลัวนิดๆ
แต่ก็จะพยายามอดทน เพื่อชีวิตที่อยากใช้
ไปนอนแล้ว พรุ่งนี้ตื่นมาซักผ้าแต่เช้า
อ่านหนังสือสอบด้วย ต้องขยันหน่อยเรา
สวัสดี
12 กุมภาพันธ์ 2551
เอ็กไซ้ๆๆๆ
วันอังคาร กูได้งานนนนนๆๆ*
เมื่อวานไปสมัครงานมาสามที่
ร้านหนังสอง ร้านมินิมาร์ทหนึ่ง
พอวันนี้ ตอนกินข้าวกลางวันเสด
ร้านเอ็กไซต์ก็โทรมา นัดสัมภาษณ์ตอนบ่ายสาม
โคดดีใจ ในที่สุดก็เรียกกูสัมภาษณ์ซะที
ไปสมัครซึทาย่ามากี่สาขา ไม่เคยจะเรียกอะ เซ็ง
เอ้กไซต์วันเดียว เรียกเฉยเลย
โคดตื่นเต้นเลย แต่ใจไม่เต้นว่ะ ไม่เหมือนตอนเด็กๆ
สงสัยเพราะทำใจได้แล้วมั้ง เลยสงบขึ้น
ก็นั่งรถไปถึงเกือบบ่ายสามพอดี
แล้วก็เข้าไปสัมภาษณ์กับพี่ที่เป็นหัวหน้ามั้ง
จะบอกว่า พี่เค้าน่ารักว่ะ เสียงก็น่ารัก ที่โทรมาเรียกสัมภาษณ์น่ะ
ว่าแล้วว่าตัวจริงต้องดูดี ที่สำคัญ พี่เค้าคุยดีอะ เป็นกันเอง
ไม่รู้สึกเกร็งเลย เหมือนคุยกับเพื่อนคนนึง
แต่ ไอ้ตอนที่ต้องตัดสินใจว่า ต้องเลิกทำงานที่คุมองวันเสาร์เนี่ย
มันคิดหนักจริงๆนะ ซึ่งพอคิดแล้ว ก็ตัดใจว่าต้องเลือกงานใหม่
เพราะทำคุมองอย่างเดียว ยังไงก็ไม่มีเงินพอจ่ายค่าหอ
ที่ร้านเค้าไม่ให้หยุด ศ ส อา ไง เซ็งเลย เสียดายเงิน
แล้วก็ไม่อยากทิ้งที่นั่นไปด้วย ทำมานาน สงสารครู
ต้องหาคนใหม่ ต้องเสียเวลาฝึกเด็กใหม่อีก
ทำไงได้ เมื่อถึงคราวต้องเลือก เราก็ต้องทำเพื่อตัวเองก่อน
แล้วถ้าเป็นไปได้ ถ้าได้หยุดวันธรรมดา ตรงกับวันพฤหัส
ก็คงไปทำที่คุมองหนึ่งวัน แต่เค้าบอกว่าพฤหัสหนังเข้า
เห้ออ สรุปอาจจะไม่ได้ทำ
แต่ยังไงก็ดีใจ เพราะเค้ารับแล้ว แถมจะให้เริ่มงานวันรุ่งขึ้นเลย
แต่เราขอเป็นวันศุกร์ เพราะพฤหัสนี้ต้องเข้าไปคุยกับทางคุมองอีกที
คงออกมากะทันหันไม่ได้
เห้ออ โล่งอก ได้งานทำซํกที สิ้นเดือนนี้มีเงินจ่ายค่าหอแล้วว้อย
มีเงินไปเที่ยวข้าวสารด้วย แล้วก็เก็บตังไปเนปาลปีหน้าดีกว่า
ดีใจๆๆ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ไปสมัครงานด้วยตัวเองและได้งานทำ
ขอให้เจอเพื่อนร่วมงานที่ดี หัวหน้าที่ดีด้วยเถอะ สาธุ๊
พนักงานใหม่ สู้ตายเว่ย จะทำให้ดีที่สุด
ปล ได้ดูหนังฟรี ดีที่สุดก็ตรงนี้ อิอิ
เมื่อวานไปสมัครงานมาสามที่
ร้านหนังสอง ร้านมินิมาร์ทหนึ่ง
พอวันนี้ ตอนกินข้าวกลางวันเสด
ร้านเอ็กไซต์ก็โทรมา นัดสัมภาษณ์ตอนบ่ายสาม
โคดดีใจ ในที่สุดก็เรียกกูสัมภาษณ์ซะที
ไปสมัครซึทาย่ามากี่สาขา ไม่เคยจะเรียกอะ เซ็ง
เอ้กไซต์วันเดียว เรียกเฉยเลย
โคดตื่นเต้นเลย แต่ใจไม่เต้นว่ะ ไม่เหมือนตอนเด็กๆ
สงสัยเพราะทำใจได้แล้วมั้ง เลยสงบขึ้น
ก็นั่งรถไปถึงเกือบบ่ายสามพอดี
แล้วก็เข้าไปสัมภาษณ์กับพี่ที่เป็นหัวหน้ามั้ง
จะบอกว่า พี่เค้าน่ารักว่ะ เสียงก็น่ารัก ที่โทรมาเรียกสัมภาษณ์น่ะ
ว่าแล้วว่าตัวจริงต้องดูดี ที่สำคัญ พี่เค้าคุยดีอะ เป็นกันเอง
ไม่รู้สึกเกร็งเลย เหมือนคุยกับเพื่อนคนนึง
แต่ ไอ้ตอนที่ต้องตัดสินใจว่า ต้องเลิกทำงานที่คุมองวันเสาร์เนี่ย
มันคิดหนักจริงๆนะ ซึ่งพอคิดแล้ว ก็ตัดใจว่าต้องเลือกงานใหม่
เพราะทำคุมองอย่างเดียว ยังไงก็ไม่มีเงินพอจ่ายค่าหอ
ที่ร้านเค้าไม่ให้หยุด ศ ส อา ไง เซ็งเลย เสียดายเงิน
แล้วก็ไม่อยากทิ้งที่นั่นไปด้วย ทำมานาน สงสารครู
ต้องหาคนใหม่ ต้องเสียเวลาฝึกเด็กใหม่อีก
ทำไงได้ เมื่อถึงคราวต้องเลือก เราก็ต้องทำเพื่อตัวเองก่อน
แล้วถ้าเป็นไปได้ ถ้าได้หยุดวันธรรมดา ตรงกับวันพฤหัส
ก็คงไปทำที่คุมองหนึ่งวัน แต่เค้าบอกว่าพฤหัสหนังเข้า
เห้ออ สรุปอาจจะไม่ได้ทำ
แต่ยังไงก็ดีใจ เพราะเค้ารับแล้ว แถมจะให้เริ่มงานวันรุ่งขึ้นเลย
แต่เราขอเป็นวันศุกร์ เพราะพฤหัสนี้ต้องเข้าไปคุยกับทางคุมองอีกที
คงออกมากะทันหันไม่ได้
เห้ออ โล่งอก ได้งานทำซํกที สิ้นเดือนนี้มีเงินจ่ายค่าหอแล้วว้อย
มีเงินไปเที่ยวข้าวสารด้วย แล้วก็เก็บตังไปเนปาลปีหน้าดีกว่า
ดีใจๆๆ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ไปสมัครงานด้วยตัวเองและได้งานทำ
ขอให้เจอเพื่อนร่วมงานที่ดี หัวหน้าที่ดีด้วยเถอะ สาธุ๊
พนักงานใหม่ สู้ตายเว่ย จะทำให้ดีที่สุด
ปล ได้ดูหนังฟรี ดีที่สุดก็ตรงนี้ อิอิ
10 กุมภาพันธ์ 2551
ชิวๆ
วันอาทิตย์จิตแจ่มใส*
ตื่นเก้าโมงเช้า แต่กว่าจะอาบน้ำก็เกือบเที่ยง
ออกไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือข้างหอกับมะ
ชามละสิบห้าบาทแน่ะ แอบแพง แต่ก็อร่อยใช้ได้
ได้ร้านประจำแล้วล่ะ ต่อไปคงได้มาฝากท้องที่นี่บ่อยๆ
เพราะมีข้าวตามสั่งด้วย มีขนมหวาน แล้วก็พวกน้ำปั่น ชา กาแฟ
ร้านเค้าก็น่านั่ง ไม่ร้อนด้วย สะอาดอีกตะหาก
จะว่าไปร้านที่หอก็มีตั้งสองร้าน แต่ไม่อร่อยว่ะ แถมสกปรกด้วย
ถ้ามันอร่อย เรื่องไม่สะอาดเราก็พอจะทำเป็นไม่สนใจได้อะนะ
แต่นี่แม่ง อย่างที่บอก รึเราเรื่องมากเองวะ ฮ่าๆ
พอกินข้าวเสด ก็แยกย้ายห้องใครห้องมัน
กลับไปห้อง อ่านหนังสือ แล้วก็หลับ
ตื่นมาออนเอ็ม ดูบลอก ดูไฮไฟว์
เขียนจดหมายหานกเล็กอีกฉบับ ต่อจากวันที่เขียนบนรถเมล์
แล้วก็ทักเอ็มไปบอกเรื่องหนังสือ แต่ไม่มีข้อความตอบกลับมา
ก็ปล่อยให้มันเป็นไป เพราะคงทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้
บุ๋มโทรมาตอนไปกินข้าวด้วย เกือบลืม
โทรมาถามเรื่องหนังสือของปรายเล่มนั้น
เล่มที่เราซื้อให้นกเล็ก แล้วเราก็กำลังจะซื้อเก็บด้วย
ยังจำประโยคนั้นได้อยู่เลย
"I miss u in ways I can feels"
ตอนนี้เงินไม่มี แต่อยากได้หนังสือเพียบ
เห้อ อยากทำงานแล้ว จะได้มีเงินใช้
วันนี้โทรหาแม่ บอกเรื่องเครื่องซักผ้า
ว่าจะเอามาไว้ที่ห้องเครื่องนึง เพราะที่บ้านมีสองเครื่อง
และคงไม่ใช้ทั้งสองอะนะ เปลืองไฟเปล่าๆ
แต่เอามาไว้ที่ห้องก็คงไม่ได้ใช้มาก เพราะผ้าน้อยอะ
เอาไว้ซักผ้าปูที่นอนด้วย จะได้ไม่ต้องจ้างเค้าซัก
อืม แล้วตอนค่ำๆก็นั่งอ่านหนังสือรอมะกับเจี๊ยบกลับมจากเดอะมอล
ฝากซื้อเบอร์เกอร์ เพราะขี้เกียจไปกินข้าวข้างนอก
ระเบียงที่ห้องบรรยากาศโคดดี ลมเย็น ยุงไม่มี
นั่งอ่านหนังสือตั้งสองชม ฟังเพลงไป สูบบุหรี่ไป โคดชิว
แต่รู้สึกช่วงนี้ตัวเองสูบบุหรี่บ่อยว่ะ หรือว่าจะติดแล้ว
เห้อ ก็ยังไม่อยากเลิกนี่นา ถึงจะมีคนบอกให้เลิกได้แล้วก็เหอะ
พอสามทุ่มมะก็กลับมา เลยไปหาที่ห้อง
เอาใบค้ำประกันไปให้เจี๊ยบเซ็นต์ให้
แล้วก็เอาปิ๊กกีต้าร์ที่ฝากมะซื้อด้วย
วันนี้เล่นกีต้าร์บ่อยเหมือนกันนะ หลังจากที่ห่างๆไปนาน
เริ่มอยากจะกลับมาเล่นอีกแล้ว
อยากซ้อมกลองด้วย รอเล้กเรียนจบ คงได้ซ้อมซักที
ฟังเพลงของซิลลี่ ฟูล แล้วอยากตีกลองโคดๆ
เห้อ พรุ่งนี้สมัครงานอีกแล้ว กลัวๆไงไม่รู้ว่ะ
บางทีก็เฉยๆ บางทีก็นึกกลัวขึ้นมา แต่ยังไงก็ต้องหางานทำให้ได้
อย่างน้อยสิ้นเดือนนี้ช่วยแม่จ่ายครึ่งนึงก็ยังดีวะ
ชีวิตอิสระต้องแลกด้วยความลำบากนิดนึงแหละ
ยังไงก็จะพยายาม แต่ตอนนี้คงต้องตั้งใจอ่านหนังสือสอบด้วย
วันนี้ดูตารางสอบละ ได้รามหนึ่งหมดยกเว้นตัวเดียวรามสอง
ว่าแล้วก็ไปอาบน้ำ อ่านหนังสือต่อดีกว่านะ
ตื่นเก้าโมงเช้า แต่กว่าจะอาบน้ำก็เกือบเที่ยง
ออกไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือข้างหอกับมะ
ชามละสิบห้าบาทแน่ะ แอบแพง แต่ก็อร่อยใช้ได้
ได้ร้านประจำแล้วล่ะ ต่อไปคงได้มาฝากท้องที่นี่บ่อยๆ
เพราะมีข้าวตามสั่งด้วย มีขนมหวาน แล้วก็พวกน้ำปั่น ชา กาแฟ
ร้านเค้าก็น่านั่ง ไม่ร้อนด้วย สะอาดอีกตะหาก
จะว่าไปร้านที่หอก็มีตั้งสองร้าน แต่ไม่อร่อยว่ะ แถมสกปรกด้วย
ถ้ามันอร่อย เรื่องไม่สะอาดเราก็พอจะทำเป็นไม่สนใจได้อะนะ
แต่นี่แม่ง อย่างที่บอก รึเราเรื่องมากเองวะ ฮ่าๆ
พอกินข้าวเสด ก็แยกย้ายห้องใครห้องมัน
กลับไปห้อง อ่านหนังสือ แล้วก็หลับ
ตื่นมาออนเอ็ม ดูบลอก ดูไฮไฟว์
เขียนจดหมายหานกเล็กอีกฉบับ ต่อจากวันที่เขียนบนรถเมล์
แล้วก็ทักเอ็มไปบอกเรื่องหนังสือ แต่ไม่มีข้อความตอบกลับมา
ก็ปล่อยให้มันเป็นไป เพราะคงทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้
บุ๋มโทรมาตอนไปกินข้าวด้วย เกือบลืม
โทรมาถามเรื่องหนังสือของปรายเล่มนั้น
เล่มที่เราซื้อให้นกเล็ก แล้วเราก็กำลังจะซื้อเก็บด้วย
ยังจำประโยคนั้นได้อยู่เลย
"I miss u in ways I can feels"
ตอนนี้เงินไม่มี แต่อยากได้หนังสือเพียบ
เห้อ อยากทำงานแล้ว จะได้มีเงินใช้
วันนี้โทรหาแม่ บอกเรื่องเครื่องซักผ้า
ว่าจะเอามาไว้ที่ห้องเครื่องนึง เพราะที่บ้านมีสองเครื่อง
และคงไม่ใช้ทั้งสองอะนะ เปลืองไฟเปล่าๆ
แต่เอามาไว้ที่ห้องก็คงไม่ได้ใช้มาก เพราะผ้าน้อยอะ
เอาไว้ซักผ้าปูที่นอนด้วย จะได้ไม่ต้องจ้างเค้าซัก
อืม แล้วตอนค่ำๆก็นั่งอ่านหนังสือรอมะกับเจี๊ยบกลับมจากเดอะมอล
ฝากซื้อเบอร์เกอร์ เพราะขี้เกียจไปกินข้าวข้างนอก
ระเบียงที่ห้องบรรยากาศโคดดี ลมเย็น ยุงไม่มี
นั่งอ่านหนังสือตั้งสองชม ฟังเพลงไป สูบบุหรี่ไป โคดชิว
แต่รู้สึกช่วงนี้ตัวเองสูบบุหรี่บ่อยว่ะ หรือว่าจะติดแล้ว
เห้อ ก็ยังไม่อยากเลิกนี่นา ถึงจะมีคนบอกให้เลิกได้แล้วก็เหอะ
พอสามทุ่มมะก็กลับมา เลยไปหาที่ห้อง
เอาใบค้ำประกันไปให้เจี๊ยบเซ็นต์ให้
แล้วก็เอาปิ๊กกีต้าร์ที่ฝากมะซื้อด้วย
วันนี้เล่นกีต้าร์บ่อยเหมือนกันนะ หลังจากที่ห่างๆไปนาน
เริ่มอยากจะกลับมาเล่นอีกแล้ว
อยากซ้อมกลองด้วย รอเล้กเรียนจบ คงได้ซ้อมซักที
ฟังเพลงของซิลลี่ ฟูล แล้วอยากตีกลองโคดๆ
เห้อ พรุ่งนี้สมัครงานอีกแล้ว กลัวๆไงไม่รู้ว่ะ
บางทีก็เฉยๆ บางทีก็นึกกลัวขึ้นมา แต่ยังไงก็ต้องหางานทำให้ได้
อย่างน้อยสิ้นเดือนนี้ช่วยแม่จ่ายครึ่งนึงก็ยังดีวะ
ชีวิตอิสระต้องแลกด้วยความลำบากนิดนึงแหละ
ยังไงก็จะพยายาม แต่ตอนนี้คงต้องตั้งใจอ่านหนังสือสอบด้วย
วันนี้ดูตารางสอบละ ได้รามหนึ่งหมดยกเว้นตัวเดียวรามสอง
ว่าแล้วก็ไปอาบน้ำ อ่านหนังสือต่อดีกว่านะ
ไทเก้อ ทรานสเลท
วันของเสือ*
เมื่อวานไปทำงานแต่เช้า งานยุ่งมาก
เพื่อนอีกคนไม่สบาย กลับบ้านไปตั้งแต่บ่ายสอง
กูเลยทำงานหัวฟูเลย ปวดหลังสุดๆอะ
พอเลิกงาน มีนัดกับเพื่อนไปดูคอนเสิตต่อ
ทีแรกว่าจะไม่ไปละ เหนื่อย ขี้เกียจเดินทาง
แต่ว่าเสียดายบัตรที่ได้มา ก็เลยไป
ไปถึงสวนลุมไนท์ คนเยอะเหมือนกันนะ
เด็กแนวเพียบ แต่ไม่เท่างานแฟตหรอก
ก็กว่าจะเจอชุ ยืนรอตั้งนาน โทรไปไม่รับ เพราะไม่ได้ยินเสียง
พอเข้างานไป วง อพมคป เล่นอยู่พอดี
เสียดายอดดู เดอะ ริช แมน ทอย
แล้วดูวงแรกเสด ก็ย้ายไปเวทีของค่ายSo on
ได้ดูจีน มหาสมุทรเล่น มีผู้หญิงคนนึงมาเล่นกีตาร์กับกลองให้
แต่ไม่รู้จักชื่ออะ โคดชอบเลย เท่ว่ะ อยู่วงไรสักอย่างนี่แหละ
คนที่เล่นกีต้าร์น่ะนะ โคดเท่ น่ารักว่ะๆๆๆ
พอดูจีนเสด ก็ไปดูสครับต่อ เห็นพี่เมื่อยชัดดีว่ะ
ก็เต้นไปเต้นมา ตอนนั้นนะเมาแล้ว เพราะกินเบียร์ไปแก้วนึง
แล้วสักพักก็เดินกลับไปดูอัศจรรย์จักรวาลที่เวทีเดิม
วงนี้เล่นสดดีมาก โคดชอบ วิช่วลเค้าเจ๋ง
ถ้าใครอัพยามา รับรองสนุกสุดๆ ขนาดเราแค่เมาเบียร์
ยังหัวส่ายได้ขนาดนั้น สมกับเป็นดนตรีของค่ายนี้จริงๆ
แล้วตอนเดินออกมาจะไปดูวงเรดิโอ เดป
บังเอิญเจอพวกทรายกับรุ่งเฉยเลย
คนเยอะแยะ แต่ก็ยังมาเจอกันจนได้
สรุป ก็กลับกะพวกนี้ เพราะไปทางเดียวกัน
ประหยัดค่ารถได้หลายบาท
พูดถึงความรุสึกที่ไปงาน ก็เฉยๆนะ
ไม่ได้สนุกมาก เสียดายไม่ได้ดูหนังสั้นเลย
คราวหน้าถ้ามีงานอีกก็คงไปแหละ
แต่จะไปให้เร็วกว่านี้หน่อย จะได้ดูอย่างอื่นด้วย
อืม พอกลับถึงห้องก็กินมาม่า คุยเอ็มกับเพื่อน แล้วนอน
วันนี้ตื่นตั้งแต่เก้าโมง ว่าจะอ่านหนังสือสอบละ
พรุ่งนี้ไปสมัครงานต่อ เห้อ เมื่อไหร่จะได้งานวะเนี่ย กลุ้มใจ
จะสิ้นเดือนแล้ว ค่าโทรก็ยังไม่ได้จ่าย
เห้อ บ่นไปก็เท่านั้น
ไปดีกว่าเรา
เมื่อวานไปทำงานแต่เช้า งานยุ่งมาก
เพื่อนอีกคนไม่สบาย กลับบ้านไปตั้งแต่บ่ายสอง
กูเลยทำงานหัวฟูเลย ปวดหลังสุดๆอะ
พอเลิกงาน มีนัดกับเพื่อนไปดูคอนเสิตต่อ
ทีแรกว่าจะไม่ไปละ เหนื่อย ขี้เกียจเดินทาง
แต่ว่าเสียดายบัตรที่ได้มา ก็เลยไป
ไปถึงสวนลุมไนท์ คนเยอะเหมือนกันนะ
เด็กแนวเพียบ แต่ไม่เท่างานแฟตหรอก
ก็กว่าจะเจอชุ ยืนรอตั้งนาน โทรไปไม่รับ เพราะไม่ได้ยินเสียง
พอเข้างานไป วง อพมคป เล่นอยู่พอดี
เสียดายอดดู เดอะ ริช แมน ทอย
แล้วดูวงแรกเสด ก็ย้ายไปเวทีของค่ายSo on
ได้ดูจีน มหาสมุทรเล่น มีผู้หญิงคนนึงมาเล่นกีตาร์กับกลองให้
แต่ไม่รู้จักชื่ออะ โคดชอบเลย เท่ว่ะ อยู่วงไรสักอย่างนี่แหละ
คนที่เล่นกีต้าร์น่ะนะ โคดเท่ น่ารักว่ะๆๆๆ
พอดูจีนเสด ก็ไปดูสครับต่อ เห็นพี่เมื่อยชัดดีว่ะ
ก็เต้นไปเต้นมา ตอนนั้นนะเมาแล้ว เพราะกินเบียร์ไปแก้วนึง
แล้วสักพักก็เดินกลับไปดูอัศจรรย์จักรวาลที่เวทีเดิม
วงนี้เล่นสดดีมาก โคดชอบ วิช่วลเค้าเจ๋ง
ถ้าใครอัพยามา รับรองสนุกสุดๆ ขนาดเราแค่เมาเบียร์
ยังหัวส่ายได้ขนาดนั้น สมกับเป็นดนตรีของค่ายนี้จริงๆ
แล้วตอนเดินออกมาจะไปดูวงเรดิโอ เดป
บังเอิญเจอพวกทรายกับรุ่งเฉยเลย
คนเยอะแยะ แต่ก็ยังมาเจอกันจนได้
สรุป ก็กลับกะพวกนี้ เพราะไปทางเดียวกัน
ประหยัดค่ารถได้หลายบาท
พูดถึงความรุสึกที่ไปงาน ก็เฉยๆนะ
ไม่ได้สนุกมาก เสียดายไม่ได้ดูหนังสั้นเลย
คราวหน้าถ้ามีงานอีกก็คงไปแหละ
แต่จะไปให้เร็วกว่านี้หน่อย จะได้ดูอย่างอื่นด้วย
อืม พอกลับถึงห้องก็กินมาม่า คุยเอ็มกับเพื่อน แล้วนอน
วันนี้ตื่นตั้งแต่เก้าโมง ว่าจะอ่านหนังสือสอบละ
พรุ่งนี้ไปสมัครงานต่อ เห้อ เมื่อไหร่จะได้งานวะเนี่ย กลุ้มใจ
จะสิ้นเดือนแล้ว ค่าโทรก็ยังไม่ได้จ่าย
เห้อ บ่นไปก็เท่านั้น
ไปดีกว่าเรา
08 กุมภาพันธ์ 2551
กล่อง
สามวันจากรถไฟเป็นอื่น!!
555 บ้าแล้วกู ไม่เกี่ยวเลย
แค่จะบอกว่า ไม่ได้มาเขียนสามวันแน่ะ
เพราะว่ากลับมืด คุยเอ็ม นอนดึก ตื่นเช้า
ที่จริงก็ข้ออ้างนั่นแหละ เหตุผลคือขี้เกียจ
แต่วันนี้อยากเขียน ก็เลยได้เวลา
สามวันที่ผ่านมา ก็ทำงาน วันพฤหัสกับวันนี้ วันศุกร์
พรุ่งนี้ก็ทำงานอีกวัน กะว่าวันอาทิตย์จะอยู่บ้านอ่านหนังสือสอบ
วันจันทร์จะไปสมัครงานสามที่ ร้านหนังสอง ร้านมินิมารท์หนึ่ง
เมื่อคืน อยู่ดีๆก็เกิดอารมณ์โรแมนติก
ออกไปมองท้องฟ้าแล้วเห็นสัญญาณไฟสีแดงบนตึก
ที่เอาไว้เตือนเครื่องบินน่ะ มองแล้วก็ว่ามันสวยดี
สีแดงๆ ในความมืด กระพริบถี่ๆ
เลยเอาไปเขียนลงบลอกเอ็กทีน
เพราะไม่ได้เขียนที่นั่นนานแล้ว
กำลังคิดอยู่พอดีว่าจะเขียนอะไร
อืม แล้วก็มีคอมเม้นท์นึงไม่ลงชื่อ
บอกว่า ดูแลตัวเองดีๆ
ใครวะแม่ง อยากรู้
ทำไมไม่ลอกอิน แล้วใช่คนในเอ็กทีนเปล่าก็ไม่รู้
ทำไมต้องมาบอกให้ดูแลตัวเองดีๆ
พูดเหมือนเป็นคนรุจักกันอย่างนั้นแหละ
ใครวะ?
เห้อ ช่างเถอะ เล่าเรื่องวันนี้ดีกว่า
ก็ออกไปกินข้าวที่คาร์ฟูร์กับมะ แล้วก็แยกกัน
เราต้องไปทำงานที่คุมองตอนบ่าย
เจี๊ยบฝากส่งพัสดุ ที่คาฟูไม่มี เราเลยต้องถือกล่อง
ไปส่งที่ข้างเดอะมอล พอไปส่งแล้ว ก็ต้องถือกล่องกลับ
เพราะเจี๊ยบไม่ให้ทิ้ง เราเลยต้องหอบหิ้วกล่องไปทำงานด้วย
คุณครูที่ทำงานถามว่าทำไมไม่ใส่ถุง เราไม่ชอบอะ
เราว่าถือถุง มันพะรุงพะรังกว่าถือกล่องนะ
เราชอบถือกล่องสี่เหลี่ยม รู้สึกเหมือนต้องคอยทะนุถนอม
ประคองไว้ดีๆ ไม่ให้มันหล่น ไม่เหมือนถุงพลาสติก
ที่จะหิ้ว จะเหวี่ยงเล่นยังไงก็ได้
สรุป เราก็ถือกล่องใบนั้นกลับมาส่งคืนเจ้าของจนได้
นั่งรถกลับมาที่หอ สองต่อ เมื่อเช้านั่งสามต่อ
แต่ขากลับเราขึ้นสองแถว แล้วมาต่อรถเมล์สาย514
จากหน้าบิ๊กซีลาดพร้าว ลงถึงหอเลย เสียเงินน้อยกว่าเมื่อเช้าด้วย
คราวหน้าขึ้นสายนี้ดีกว่า ประหยัดได้อีกสองสามบาท
กลับมาถึงหอ ก็ยังไมได้กินข้าว ตอนแรกจะเดินไปกินที่โฮมโปร
แต่เปลี่ยนใจ ไปซื้อมาม่าที่ร้านของชำใต้ตึกแทน
ซื้อมาม่าคัพมากินกับนมดัชมิลอีกกล่อง
แล้วก็ไปหยอดเหรียญเอาน้ำมาขวดนึง
ซื้อบุหรี่แอลเอ็มมาสามตัวเหมือนเดิม
เสียงยังไม่ทันหายเลยกู แล้วไหนว่าจะไปเปิดหมวกวันอาทิตย์นี้
อยากไปจริงๆนะเนี่ย ไมได้เล่นนานแล้ว
ตอนนี้อยากเล่นเพลงของเดอะบีทเทิ่ลกับเรดิโอเฮดมากๆ
แล้วสองสามวันมานี่ก็กำลังบ้าเพลงWhenของ vincent Gallo
พยายามจะแกะให้ได้ เพลงบ้าไรวะ เหงาพิลึก
พรุ่งนี้ทำงานแต่เช้า เดี๋ยวคงต้องนอนไม่เกินตีหนึ่ง
ไม่งั้นทำงานไม่ค่อยไหว ง่วงนอน
ไปอาบน้ำ แล้วแกะเพลง อ่านหนังสือต่อ ดีกว่า
ไว้มาเขียนใหม่พรุ่งนี้ : )
555 บ้าแล้วกู ไม่เกี่ยวเลย
แค่จะบอกว่า ไม่ได้มาเขียนสามวันแน่ะ
เพราะว่ากลับมืด คุยเอ็ม นอนดึก ตื่นเช้า
ที่จริงก็ข้ออ้างนั่นแหละ เหตุผลคือขี้เกียจ
แต่วันนี้อยากเขียน ก็เลยได้เวลา
สามวันที่ผ่านมา ก็ทำงาน วันพฤหัสกับวันนี้ วันศุกร์
พรุ่งนี้ก็ทำงานอีกวัน กะว่าวันอาทิตย์จะอยู่บ้านอ่านหนังสือสอบ
วันจันทร์จะไปสมัครงานสามที่ ร้านหนังสอง ร้านมินิมารท์หนึ่ง
เมื่อคืน อยู่ดีๆก็เกิดอารมณ์โรแมนติก
ออกไปมองท้องฟ้าแล้วเห็นสัญญาณไฟสีแดงบนตึก
ที่เอาไว้เตือนเครื่องบินน่ะ มองแล้วก็ว่ามันสวยดี
สีแดงๆ ในความมืด กระพริบถี่ๆ
เลยเอาไปเขียนลงบลอกเอ็กทีน
เพราะไม่ได้เขียนที่นั่นนานแล้ว
กำลังคิดอยู่พอดีว่าจะเขียนอะไร
อืม แล้วก็มีคอมเม้นท์นึงไม่ลงชื่อ
บอกว่า ดูแลตัวเองดีๆ
ใครวะแม่ง อยากรู้
ทำไมไม่ลอกอิน แล้วใช่คนในเอ็กทีนเปล่าก็ไม่รู้
ทำไมต้องมาบอกให้ดูแลตัวเองดีๆ
พูดเหมือนเป็นคนรุจักกันอย่างนั้นแหละ
ใครวะ?
เห้อ ช่างเถอะ เล่าเรื่องวันนี้ดีกว่า
ก็ออกไปกินข้าวที่คาร์ฟูร์กับมะ แล้วก็แยกกัน
เราต้องไปทำงานที่คุมองตอนบ่าย
เจี๊ยบฝากส่งพัสดุ ที่คาฟูไม่มี เราเลยต้องถือกล่อง
ไปส่งที่ข้างเดอะมอล พอไปส่งแล้ว ก็ต้องถือกล่องกลับ
เพราะเจี๊ยบไม่ให้ทิ้ง เราเลยต้องหอบหิ้วกล่องไปทำงานด้วย
คุณครูที่ทำงานถามว่าทำไมไม่ใส่ถุง เราไม่ชอบอะ
เราว่าถือถุง มันพะรุงพะรังกว่าถือกล่องนะ
เราชอบถือกล่องสี่เหลี่ยม รู้สึกเหมือนต้องคอยทะนุถนอม
ประคองไว้ดีๆ ไม่ให้มันหล่น ไม่เหมือนถุงพลาสติก
ที่จะหิ้ว จะเหวี่ยงเล่นยังไงก็ได้
สรุป เราก็ถือกล่องใบนั้นกลับมาส่งคืนเจ้าของจนได้
นั่งรถกลับมาที่หอ สองต่อ เมื่อเช้านั่งสามต่อ
แต่ขากลับเราขึ้นสองแถว แล้วมาต่อรถเมล์สาย514
จากหน้าบิ๊กซีลาดพร้าว ลงถึงหอเลย เสียเงินน้อยกว่าเมื่อเช้าด้วย
คราวหน้าขึ้นสายนี้ดีกว่า ประหยัดได้อีกสองสามบาท
กลับมาถึงหอ ก็ยังไมได้กินข้าว ตอนแรกจะเดินไปกินที่โฮมโปร
แต่เปลี่ยนใจ ไปซื้อมาม่าที่ร้านของชำใต้ตึกแทน
ซื้อมาม่าคัพมากินกับนมดัชมิลอีกกล่อง
แล้วก็ไปหยอดเหรียญเอาน้ำมาขวดนึง
ซื้อบุหรี่แอลเอ็มมาสามตัวเหมือนเดิม
เสียงยังไม่ทันหายเลยกู แล้วไหนว่าจะไปเปิดหมวกวันอาทิตย์นี้
อยากไปจริงๆนะเนี่ย ไมได้เล่นนานแล้ว
ตอนนี้อยากเล่นเพลงของเดอะบีทเทิ่ลกับเรดิโอเฮดมากๆ
แล้วสองสามวันมานี่ก็กำลังบ้าเพลงWhenของ vincent Gallo
พยายามจะแกะให้ได้ เพลงบ้าไรวะ เหงาพิลึก
พรุ่งนี้ทำงานแต่เช้า เดี๋ยวคงต้องนอนไม่เกินตีหนึ่ง
ไม่งั้นทำงานไม่ค่อยไหว ง่วงนอน
ไปอาบน้ำ แล้วแกะเพลง อ่านหนังสือต่อ ดีกว่า
ไว้มาเขียนใหม่พรุ่งนี้ : )
05 กุมภาพันธ์ 2551
กว่าจะได้พบ
*วันอังคาร สมัครงานๆ
ไม่ได้มาเขียนนานมากสืบเนื่องจากย้ายหอแล้วไม่มีเน็ต
แต่วันนี้มะเอาโน้ตบุคมาทิ้งไว้ที่ห้อง เลยสบโอกาสพอดี
พยายามเข้าบลอกอยู่นานมาก เพราะจำรหัสผ่านผิด ตึ่งโป๊ะ!
หลายวันที่ผ่านมามีเรื่องเล่าเพียบเลย จนไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี
เอาเป็นว่า เริ่มจากวันเสาร์ ไปหามะที่สระบุรี ไปคุยกับแม่มะ
เรื่องที่มีบุคคลลึกลับโทรไปหาแม่มะ แล้วใส่ร้ายเรากับเจี๊ยบ
ตอนแรกว่าจะบุกไปเคลียร์กับคนๆนั้น แต่แม่เปลี่ยนใจ
บอกว่าไม่ต้องไปยุ่งกับมัน แล้วก็ให้มะเปลี่ยนเบอร์ เมล ไฮไฟว์
สรุปคือ แม่เหมือนจะเชื่อทางเรามากกว่าทางนั้น แต่ก็ไม่ไว้ใจเหมือนเดิมแล้ว
เพราะประเด็นที่ว่า มะคบกับเจี๊ยบแบบแฟน คงทำให้แม่ไม่ไว้ใจ
แต่ก็แปลกที่เค้าไม่พูดถึงเรื่องนี้เลย ทั้งๆที่ทางโน้นชูประเด็นนี้เป็นหลัก
อืม ยังไงก็แล้วแต่ เรากับเจี๊ยบก็เคลียร์ตัวเองไปแล้ว
พูดความจริงทุกเรื่อง เพราะเราไม่ได้พามะไปเสียคนแบบที่ฝ่ายโน้นพูด
จะมีเรื่องเดียวที่ไม่พูดคือเรื่องชอบผู้หญิง เพราะไม่รู้จะพูดยังไง
พอกลับจากสระบุรี ก็ไปข้าวสารต่อกับมุกข์ พีช ผึ้ง หนึ่ง
ไปกินพิซซ่าลันตา แล้วก็ไปบริคบาร์ต่อ กินเบียร์ไปสองขวดมั้ง
แต่ดูดบุหรี่เยอะมากน่าจะเป็นสิบตัว ช่างไม่เจียมสังขาร
เพราะก่อนไปก็เป็นหวัดลงคอ เสียงหาย พูดไม่มีเสียงเลย
เข้าบริคครั้งแรก ก็สนุกดีนะ แต่คนเยอะสัดๆอะ แทบไม่มีที่เต้น
แถมไปเต้นกันตรงหน้าห้องน้ำ ร้อนมากๆ เหงื่อท่วมตัวกันเลยทีเดียว
นั่งแทกซี่กลับหอกับมุกข์ นอนคุยกันจนถึงเช้า แล้วก็หลับไป
ตื่นมาอีกทีตอนสิบเอ็ดโมง แม่โทรมาบอกจะเอาของมาให้
เลยต้องรีบอาบน้ำออกไปคาร์ฟูร์ กินข้าวเสด แม่ก็มา
แล้วมุกข์ก็กลับบ้าน ส่วนเราก็กลับไปที่ห้อง นอนอ่านหนังสือ
วันอาทิตย์ไม่ได้ทำไรเลยทั้งวัน นอกจากอ่านหนังสือ
ส่วนเมื่อวานวันจันทร์ ตื่นเที่ยง เพราะฝนตกตั้งแต่เช้า เลยนอนสบาย
ว่าจะไปสมัครงาน แต่ฝนมันไม่หยุดสักที สุดท้ายก็ไม่ได้ไป
แต่ตากฝนไปร้านหนังสือที่คาฟูร์แทน เหลือเงินอยู่สองร้อยกว่าบาท
ว่าจะไม่ซื้อเพราะต้องเก็บไว้ใช้ถึงวันพฤหัส
แต่แล้วก็อดไม่ได้ ซื้อ a chance of sunshine มาเล่มนึง
เพราะเห็นมันมีเล่มเดียวในร้าน แล้วก็ไม่ค่อยเห็นวางขายที่ร้านไหน
สรุป เหลือเงินอยู่ยี่สิบบาท เลยต้องบากหน้าโทรไปขอเงินแม่
พอซื้อเสร็จก็กลับมาอ่าน ภาพสวยมาก เรื่องก็ดี เคยดูหนังมาก่อน
แต่พอมาอ่านหนังสือ รู้สึกว่ามันได้อารมณ์แตกต่างกันค่อนข้างมาก
ว่าแล้วก็อยากหาหนังมาดูอีกสักรอบจัง :)
มาถึงเรื่องวันนี้ เมื่อคืนอ่านหนังสือของMartin Pageจนจบ
เพราะพรุ่งนี้ต้องเอาไปคืนที่หอกลาง เลยนอนตอนตีสอง
ฝนตกตลอดทั้งคืนเลย ตื่นอีกทีตอนเก้าโมงเพราะมะโทรมา
มะมาที่หอ ซื้อข้าวเหนียวไก่ย่างมาฝาก
แล้วก็เอาโน้ตบุคมาทิ้งไว้ให้เล่น
แล้วก็บอกข่าวร้ายเรื่องโดนรีไทร์
ไม่รู้จะปลอบใจเพื่อนยังไง เพราะเรื่องนี้ก็เคยคุยกันแล้ว
แต่ไม่คิดว่าจะไทร์จริงๆ
สงสารเพื่อน ดูเหมือนไม่เครียด แต่จริงๆแล้วคงเครียดมาก
ไหนจะต้องบอกแม่กับพ่ออีก ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงบ้าง
เห้อ ชีวิตคนเรามันไม่แน่นอนจริงๆนะ อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ
อืม หลังจากคุยกันที่ห้อง มะต้องกลับบ้าน เราก็ต้องออกไปสมัครงาน
นั่งรถไปเดอะมอลล์ ไปส่งมะที่วินรถตู้ แล้วเราก็ไปที่แฟมิลี่มาร์ท
ไปถามเรื่องสมัครงาน ต้องมีคนค้ำประกันด้วย เลยยังสมัครไม่ได้
ต้องเอาใบสมัครกลับมาให้คนค้ำเซ็นต์ก่อน ซึ่งถ้าให้แม่ค้ำ
ก็ต้องรอแม่กลับมาจากหาดใหญ่ แต่ถ้าให้เจี๊ยบค้ำก็สมัครได้เลย
ต้องดูอีกทีนึงล่ะนะ
หลังจากเอาใบสมัครมา ก็แวะไปไอทีเซ็นเตอร์ ไปดูโน้ตบุค
ก่อนขึ้น เจอบู้ทขายหนังสือราคาลดกระหน่ำ
เลยได้สารกระตุ้น หน้าปกวรรณสิงห์กับจีน มหาสมุทรมาสองเล่ม
เล่มละสิบห้าบาท จากราคาปก แปดสิบ เหอๆ ถูกโคด ไม่รุทำไม
เออ แล้วก็ขึ้นไปดูโน้ตบุคชั้นสอง มีของเอเซอร์ กับ คอมแพค
ราคาสูสีกันมาก สเปคก็ไม่ต่างกันมาก เลยยังไม่รุจะเอายี่ห้อไหนดี
คาดว่าคอมแพคได้เปรียบ เพราะสีดำล้วน แถมถูกกว่า ฮ่าๆ
แต่ยังไงก็ต้องรอเดือนมีนาโน่นแน่ะ กว่าแม่จะได้เงิน
ตอนนี้ก็ใช้ของชาวบ้านเค้าไปก่อนละกัน --"
สรุปวันนี้ก็ค่อยหายเบื่อหน่อย มีเน็ตเล่น ถึงจะไม่กี่วันก็ยังดี
พอได้อัปบลอก ดูโน่นนั่น ตามประสาคนว่างงานT_T
อยากได้งานแล้วว้อย งานอะไรก็ได้ ที่ทำให้กูมีเงินจ่ายค่าหอ
ที่สำคัญ ถ้าเป็นกะดึกได้ยิ่งดี กลางวันจะได้มีเวลาไปทำอย่างอื่น
เอาเถอะ ได้งานอะไรเดี๋ยวก็รู้ วันนี้เขียนพอละ
เดี๋ยวไปดูหนังห้องเจี๊ยบดีกว่า พรุ่งนี้ต้องเอาแผ่นไปคืนนกเล็กแล้ว
เออ ลืมเล่าเรื่องจดหมาย เมื่อคืนนั่งเขียนจดหมายถึงนกเล็กตอนเที่ยงคืน
กว่าเสร็จก็ชั่วโมงนึงพอดี แค่สี่แผ่นไม่รู้ทำไมมันนานนัก แถมเป็นจดหมาย
ที่จะไม่ได้ถูกส่งอีกตะหาก ถ้าโชคดี วันนึงก็อาจจะได้ส่งน่ะนะ
แต่ตอนนี้ได้แต่เก็บเอาไว้ ทำได้แค่เขียนถึงเท่านั้นเองล่ะ
อืม แต่ก็ดีกว่าไม่ได้เขียนนะ ถ้าไม่ได้เขียนคงอึดอัดแย่อะ
พูดถึงนกเล็กแล้วนึกถึงบุ๋ม โทรมาด้วยแหละวันนี้
ถามว่าทำไมไม่ออนเอ็ม หายไปหลายวันเลย
ก็คุยกันนิดหน่อยแล้วบุ๋มก็ไปเรียน
แต่คนที่ไม่ได้คุยเลยก็คือนกเล็ก หายเงียบไปทั้งเราและนกเล็ก
สงสัยว่าจะลืมกันซะแล้วมั้ง ทั้งสองฝ่าย รึเปล่าหว่า?
บางทีก็รุสึกว่าอยากลืมเหมือนกันนะ ไม่รู้ทำไม
แต่สุดท้ายก็ไม่ได้หรอกว่ะ ยังไงก็คิดถึงอยู่ดี
เห้อ บ่นเพ้อไรเนี่ยกู ไปจริงๆละ หวัดดี :p
ไม่ได้มาเขียนนานมากสืบเนื่องจากย้ายหอแล้วไม่มีเน็ต
แต่วันนี้มะเอาโน้ตบุคมาทิ้งไว้ที่ห้อง เลยสบโอกาสพอดี
พยายามเข้าบลอกอยู่นานมาก เพราะจำรหัสผ่านผิด ตึ่งโป๊ะ!
หลายวันที่ผ่านมามีเรื่องเล่าเพียบเลย จนไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี
เอาเป็นว่า เริ่มจากวันเสาร์ ไปหามะที่สระบุรี ไปคุยกับแม่มะ
เรื่องที่มีบุคคลลึกลับโทรไปหาแม่มะ แล้วใส่ร้ายเรากับเจี๊ยบ
ตอนแรกว่าจะบุกไปเคลียร์กับคนๆนั้น แต่แม่เปลี่ยนใจ
บอกว่าไม่ต้องไปยุ่งกับมัน แล้วก็ให้มะเปลี่ยนเบอร์ เมล ไฮไฟว์
สรุปคือ แม่เหมือนจะเชื่อทางเรามากกว่าทางนั้น แต่ก็ไม่ไว้ใจเหมือนเดิมแล้ว
เพราะประเด็นที่ว่า มะคบกับเจี๊ยบแบบแฟน คงทำให้แม่ไม่ไว้ใจ
แต่ก็แปลกที่เค้าไม่พูดถึงเรื่องนี้เลย ทั้งๆที่ทางโน้นชูประเด็นนี้เป็นหลัก
อืม ยังไงก็แล้วแต่ เรากับเจี๊ยบก็เคลียร์ตัวเองไปแล้ว
พูดความจริงทุกเรื่อง เพราะเราไม่ได้พามะไปเสียคนแบบที่ฝ่ายโน้นพูด
จะมีเรื่องเดียวที่ไม่พูดคือเรื่องชอบผู้หญิง เพราะไม่รู้จะพูดยังไง
พอกลับจากสระบุรี ก็ไปข้าวสารต่อกับมุกข์ พีช ผึ้ง หนึ่ง
ไปกินพิซซ่าลันตา แล้วก็ไปบริคบาร์ต่อ กินเบียร์ไปสองขวดมั้ง
แต่ดูดบุหรี่เยอะมากน่าจะเป็นสิบตัว ช่างไม่เจียมสังขาร
เพราะก่อนไปก็เป็นหวัดลงคอ เสียงหาย พูดไม่มีเสียงเลย
เข้าบริคครั้งแรก ก็สนุกดีนะ แต่คนเยอะสัดๆอะ แทบไม่มีที่เต้น
แถมไปเต้นกันตรงหน้าห้องน้ำ ร้อนมากๆ เหงื่อท่วมตัวกันเลยทีเดียว
นั่งแทกซี่กลับหอกับมุกข์ นอนคุยกันจนถึงเช้า แล้วก็หลับไป
ตื่นมาอีกทีตอนสิบเอ็ดโมง แม่โทรมาบอกจะเอาของมาให้
เลยต้องรีบอาบน้ำออกไปคาร์ฟูร์ กินข้าวเสด แม่ก็มา
แล้วมุกข์ก็กลับบ้าน ส่วนเราก็กลับไปที่ห้อง นอนอ่านหนังสือ
วันอาทิตย์ไม่ได้ทำไรเลยทั้งวัน นอกจากอ่านหนังสือ
ส่วนเมื่อวานวันจันทร์ ตื่นเที่ยง เพราะฝนตกตั้งแต่เช้า เลยนอนสบาย
ว่าจะไปสมัครงาน แต่ฝนมันไม่หยุดสักที สุดท้ายก็ไม่ได้ไป
แต่ตากฝนไปร้านหนังสือที่คาฟูร์แทน เหลือเงินอยู่สองร้อยกว่าบาท
ว่าจะไม่ซื้อเพราะต้องเก็บไว้ใช้ถึงวันพฤหัส
แต่แล้วก็อดไม่ได้ ซื้อ a chance of sunshine มาเล่มนึง
เพราะเห็นมันมีเล่มเดียวในร้าน แล้วก็ไม่ค่อยเห็นวางขายที่ร้านไหน
สรุป เหลือเงินอยู่ยี่สิบบาท เลยต้องบากหน้าโทรไปขอเงินแม่
พอซื้อเสร็จก็กลับมาอ่าน ภาพสวยมาก เรื่องก็ดี เคยดูหนังมาก่อน
แต่พอมาอ่านหนังสือ รู้สึกว่ามันได้อารมณ์แตกต่างกันค่อนข้างมาก
ว่าแล้วก็อยากหาหนังมาดูอีกสักรอบจัง :)
มาถึงเรื่องวันนี้ เมื่อคืนอ่านหนังสือของMartin Pageจนจบ
เพราะพรุ่งนี้ต้องเอาไปคืนที่หอกลาง เลยนอนตอนตีสอง
ฝนตกตลอดทั้งคืนเลย ตื่นอีกทีตอนเก้าโมงเพราะมะโทรมา
มะมาที่หอ ซื้อข้าวเหนียวไก่ย่างมาฝาก
แล้วก็เอาโน้ตบุคมาทิ้งไว้ให้เล่น
แล้วก็บอกข่าวร้ายเรื่องโดนรีไทร์
ไม่รู้จะปลอบใจเพื่อนยังไง เพราะเรื่องนี้ก็เคยคุยกันแล้ว
แต่ไม่คิดว่าจะไทร์จริงๆ
สงสารเพื่อน ดูเหมือนไม่เครียด แต่จริงๆแล้วคงเครียดมาก
ไหนจะต้องบอกแม่กับพ่ออีก ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงบ้าง
เห้อ ชีวิตคนเรามันไม่แน่นอนจริงๆนะ อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ
อืม หลังจากคุยกันที่ห้อง มะต้องกลับบ้าน เราก็ต้องออกไปสมัครงาน
นั่งรถไปเดอะมอลล์ ไปส่งมะที่วินรถตู้ แล้วเราก็ไปที่แฟมิลี่มาร์ท
ไปถามเรื่องสมัครงาน ต้องมีคนค้ำประกันด้วย เลยยังสมัครไม่ได้
ต้องเอาใบสมัครกลับมาให้คนค้ำเซ็นต์ก่อน ซึ่งถ้าให้แม่ค้ำ
ก็ต้องรอแม่กลับมาจากหาดใหญ่ แต่ถ้าให้เจี๊ยบค้ำก็สมัครได้เลย
ต้องดูอีกทีนึงล่ะนะ
หลังจากเอาใบสมัครมา ก็แวะไปไอทีเซ็นเตอร์ ไปดูโน้ตบุค
ก่อนขึ้น เจอบู้ทขายหนังสือราคาลดกระหน่ำ
เลยได้สารกระตุ้น หน้าปกวรรณสิงห์กับจีน มหาสมุทรมาสองเล่ม
เล่มละสิบห้าบาท จากราคาปก แปดสิบ เหอๆ ถูกโคด ไม่รุทำไม
เออ แล้วก็ขึ้นไปดูโน้ตบุคชั้นสอง มีของเอเซอร์ กับ คอมแพค
ราคาสูสีกันมาก สเปคก็ไม่ต่างกันมาก เลยยังไม่รุจะเอายี่ห้อไหนดี
คาดว่าคอมแพคได้เปรียบ เพราะสีดำล้วน แถมถูกกว่า ฮ่าๆ
แต่ยังไงก็ต้องรอเดือนมีนาโน่นแน่ะ กว่าแม่จะได้เงิน
ตอนนี้ก็ใช้ของชาวบ้านเค้าไปก่อนละกัน --"
สรุปวันนี้ก็ค่อยหายเบื่อหน่อย มีเน็ตเล่น ถึงจะไม่กี่วันก็ยังดี
พอได้อัปบลอก ดูโน่นนั่น ตามประสาคนว่างงานT_T
อยากได้งานแล้วว้อย งานอะไรก็ได้ ที่ทำให้กูมีเงินจ่ายค่าหอ
ที่สำคัญ ถ้าเป็นกะดึกได้ยิ่งดี กลางวันจะได้มีเวลาไปทำอย่างอื่น
เอาเถอะ ได้งานอะไรเดี๋ยวก็รู้ วันนี้เขียนพอละ
เดี๋ยวไปดูหนังห้องเจี๊ยบดีกว่า พรุ่งนี้ต้องเอาแผ่นไปคืนนกเล็กแล้ว
เออ ลืมเล่าเรื่องจดหมาย เมื่อคืนนั่งเขียนจดหมายถึงนกเล็กตอนเที่ยงคืน
กว่าเสร็จก็ชั่วโมงนึงพอดี แค่สี่แผ่นไม่รู้ทำไมมันนานนัก แถมเป็นจดหมาย
ที่จะไม่ได้ถูกส่งอีกตะหาก ถ้าโชคดี วันนึงก็อาจจะได้ส่งน่ะนะ
แต่ตอนนี้ได้แต่เก็บเอาไว้ ทำได้แค่เขียนถึงเท่านั้นเองล่ะ
อืม แต่ก็ดีกว่าไม่ได้เขียนนะ ถ้าไม่ได้เขียนคงอึดอัดแย่อะ
พูดถึงนกเล็กแล้วนึกถึงบุ๋ม โทรมาด้วยแหละวันนี้
ถามว่าทำไมไม่ออนเอ็ม หายไปหลายวันเลย
ก็คุยกันนิดหน่อยแล้วบุ๋มก็ไปเรียน
แต่คนที่ไม่ได้คุยเลยก็คือนกเล็ก หายเงียบไปทั้งเราและนกเล็ก
สงสัยว่าจะลืมกันซะแล้วมั้ง ทั้งสองฝ่าย รึเปล่าหว่า?
บางทีก็รุสึกว่าอยากลืมเหมือนกันนะ ไม่รู้ทำไม
แต่สุดท้ายก็ไม่ได้หรอกว่ะ ยังไงก็คิดถึงอยู่ดี
เห้อ บ่นเพ้อไรเนี่ยกู ไปจริงๆละ หวัดดี :p
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)