เมื่อวานง่วงนอนมาก เลยไม่ได้มาบ่น
วันนี้ก็เลยมาเขียนนี่แล
ก็ตื่นแต่เช้าเพราะคนงานมาเริ่มทำหลังคาหน้าบ้านแล้ว
ตื่นตั้งแต่เจ็ดโมงแน่ะ ยังนอนไม่เต็มที่เลย
แต่ตอนบ่ายๆต้องไปสมัครงาน ก็ไม่ได้นอนต่อ
ลุกขึ้นมาอ่านหนังสือต่อ เปิดคอมอ่านบลอก ดูไฮ5
แล้วก็อ่านหนังสือต่อบนเตียงแบบกึ่งหลับกึ่งตื่น
เปิดเอ็มทิ้งไว้ สักพักนกเล็กก็ทักมา ก็คุยกันนิดหน่อย
นั่งหน้าคอมถึงเที่ยงก็อาบน้ำ แต่งตัวไปสมัครงาน
เชื่อมั้ยว่า จะไปสมัครงานแต่ไม่ไ่ด้เตรียมอะไรล่วงหน้าซักอย่าง
ก็มาหาเอาตอนจะไปนั่นแหละ สำเนาทะเบียนบ้าน วุฒิการศึกษา บัตรประชาชน
เอาไปถ่ายเอกสารตรงเดอะมอล แล้วก็นั่งรถจากเดอะมอลไปคาร์ฟูร์เลย
ไปถึงก็เข้าไปถาม เค้าก็ให้กรอกใบสมัครเหมือนเคย
แล้วบอกจะติดต่อกลับมา เห้ออ ทั้งปีีแหละ ตอนโน้นก็สมัครไป
ไม่เห็นจะติดต่อกลับมาเลยนี่หว่า เซ็งจิต
เออ พอสมัครที่นี่เสร็จ ก็เลยไปดูที่ร้านบลอกบัสเตอร์ตรงห้างท็อป
เห็นเพื่อนมันบอกว่ารับสมัคร แต่พอไปถึง ก็ไม่เห็นมีป้ายเลยว่ะ
สรุปเลยสมัครได้แค่ที่เดียว แล้วก็นั่งรถไปดูหนังที่ลิโด้
เกือบจะไม่ทันแน่ะ เลยเวลาฉายไปห้านาที วิ่งไปซื้อตั๋วแล้วก็เข้าโรงเลย
คนไม่ค่อยเยอะเลยอะ เราเลือกที่นั่งโคดจะกลางจอ ตอนแรกนั่งติดกับผู้ชายวัยทำงานคนนึง
แต่พอหนังเริ่มฉาย เค้าก็ย้ายไปนั่งตรงอื่น แอบคิดในใจ มันคงไม่ได้กลัวเราหรอกนะ
อืม ก็ดูหนังไปเรื่อยๆ rainbow song หนังญี่ปุ่นที่ชุนจิ อิวาอิ อยู่เบื้องหลัง
หนังของเฮียชุนจิ เราชอบทุกเรื่องอยู่แล้ว ภาพมันฟุ้งดี เรื่องก็มีหลายอารมณ์
เฮียแกจะทำหนังให้หม่นก็หม่นสุดๆ จะทำให้ซึ้งก็ซึ้งโคดๆ
พระเอกเรื่องนี้ก็เป็นตัวเอกในหนังของชุนจิ เรื่อง all about lily chou chou
ส่วนน้องนางเอก ก็มาจากเรื่องเดียวกัน นางเอกญี่ปุ่นคนที่เราชอบที่ชื่อ ยู อาโออิ
อยากดูหนังเรื่องฮุลาเกิร์ลที่เค้าเล่นอ่า ยังไมได้ดูเลย
แต่ตัวนางเอกนี่สิ ว้ากก โคดชอบ
เท่มากเลยอะ น่ารักได้อีก ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลยแฮะ
อยากรู้จังว่าชื่ออะไร เดี๋ยวลองไปหาดู
ตัวหนังก็ดีนะ ภาพสวย ฟุ้งสมใจ
แต่รู้สึกว่าพระเอกตอนที่เล่นเรื่องก่อนกับเรื่องนี้
ดูแล้วเรื่องก่อนน่ารักกว่าเยอะเลย พอโตแล้วไม่น่ารักอะ
อืม มีหลายๆฉากที่ชอบ อย่างฉากที่แฟนพระเอกใช้มุกโทรหาหัวใจเพื่อจีบพระเอก
โคดจะฮาเลย จะมีใครจำเอาไปใช้จีบสาวบ้างปะวะ ฮ่าๆ
อยากดูอีกรอบละเนี่ย ชวนใครไปดูดีหว่า ดูคนเดียวบางทีก็เหงาแฮะ
อืม พอดูเสด ก็เดินออกมา ไปจ่ายค่าน้ำค่าไฟให้แม่ที่7-11
แล้วตอนจะขึ้นบีทีเอสกลับบ้าน ก็ยืนสูบบุหรี่อยู่ เห็นคนขอทานพ่อกับลูกสาวสองคน
คนพ่อนั่งเป่าเม้าออแกน เลยยืนฟัง ที่จริงเราว่าเค้าไม่ใช่ขอทาน
เพราะเค้าเอาเสียงดนตรีแลกเงิน เพียงแต่ลักษณะภายนอกดูเหมือนขอทานทั่วๆไปเท่านั้นเอง
เราว่า เราควรจะเรียกเค้าว่า คนเล่นดนตรีจะดีกว่า
อืม เราก็ยืนฟังอยู่นาน แล้วก็ตัดสินใจเดินไปซื้อน้ำส้มกับขนมปัง
มาให้พวกเค้าแบ่งกันกิน เงินสามสิบกว่าบาทกับเงินร้อยบาทที่ดูหนัง
มันเทียบกันไมไ่ด้เลยว่ามั้ย ตอนขึ้นบันไดเลื่อน มองลงไปตรงนั้น
เห็นเด็กคนพี่เอาขนมออกมา ส่วนพ่อก็เปิดขวดน้ำส้ม
รู้สึกดีที่อย่างน้อยเค้าก็ได้กินขนมที่เราให้
มองจนสุดบันไดเลื่อน แล้วก็เดินขึ้นรถไฟฟ้าไป
เมื่อวานไม่รู้ทำไมรู้สึกเหม่อลอยแปลกๆ
จะเอาหนังสือไปคืนนกเล็กก็โทรไปไม่รับ
พอถึงอนุสาวรีย์ ก็ไม่รู้จะทำไง เพราะมันเลยสี่โมงแล้ว
ก็หอบหนังสือกลับ ระหว่างเดินก็หยิบมือถือมาถ่ายรูปป้ายไฟ
รอบๆอนุสาวรีย์ ทั้งป้ายแคนน่อน โรงบาล เซ็นเตอร์วัน
ป้ายพวกนี้มองตอนกลางคืนแล้วสวยดี
เหมือนกับดาวเรืองแสงลอยกลางท้องฟ้า
มีทั้งสีเขียว เหลือง แดง
อ้อ ถ่ายเลขสัญาณไฟแดงมาด้วยล่ะ
แถมตรงจังหวะกับเลขยี่สิบสองพอดีเลย
กะแล้วว่าต้องกดถ่ายตอนมันถึง23
รู้สึกดีที่ได้เห็นเลขโปรดของตัวเองบนสัญาณไฟ:)
อืม ก็นั่งรถเมล์กลับบ้าน สองต่อ แต่รถไม่ติดเลย
แวะซื้อกับข้าวที่บิ๊กซีไปกินกับแม่
ถึงบ้านตอนสามทุ่มครึ่ง กินข้าวกับแม่
แล้วก็นั่งเปิดบลอกเหมือนเคย พอเที่ยงคืนก็ง่วงนอน
แต่ก็นอนอ่านหนังสือสักพัก ก็หลับ
อืม แล้วก็ตื่นมานั่งเขียนนี่แหละ
ไปกินข้าวแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้มาเขียนใหม่
เออ แต่แม่ซื้อก๋วยเตี๋ยวมา ไม่ใช่ข้าว ฮ่าๆ
นั่นแหละ ไปกินก่อนละ
22 มกราคม 2551
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น